วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ดูหนังออนไลน์ One Flew over the Cuckoo's Nest. บ้าก็บ้าวะ!



หนังเรื่องนี้สร้างจากหนังสือชื่อเดียวกันคือ One Flew over the Cuckoo's Nest.

แต่ผมไม่รู้ว่าใครตั้งชื่อหนังเรื่องนี้ให้เป็นพากษ์ไทยได้อย่างแหล่มว่า”บ้าก็บ้าวะ!” แทนที่จะแปลออกไปในแนวๆว่า”เจ้านกกาเหว่าเอย ไข่ไว้ให้แม่กาฟัก”

หนังออกฉายในปี1975 หรือพ.ศ.2518 ปลายๆสงครามเวียดนามเต็มที สังคมของอเมริกันกำลังตั้งคำถามว่าสภาพบ้านเมืองเวลานั้น มีผู้ปกครองประเทศชอบเจ้ากี้เจ้าการว่าอันนั้นดีอันนี้เลว หากใครคิดต่างจากกู.. ประทานโทษหากมึงไม่บ้าก็แสดงว่ามึงเมา

หนังกวาดออสการ๋ไป 5 รางวัลใหญ่ ทั้งหนังยอดเยี่ยม(เชื่อมั๊ยว่าไมเคิล ดั๊กลาส เป็นผู้สร้างนะ),ผู้กำกับยอดเยี่ยม, ดารานำชายยอดเยี่ยม(แจ๊ค นิโคลสัน),ผู้แสดงนำหญิงยอดเยี่ยม(ตอนนี้แก่หงักแล้ว), เขียนบทดัดแปลงจากบทประพันธ์ดั้งเดิมยอดเยี่ยม



หากใครหาซื้อDVDมาดู(ผมซื้อมาจากร้านBoomerang แพงโคตรๆ400ทอน1บาท เพราะมันอ้างว่าทำเป็นspecial edition)

นอกจากจะได้เห็นตอนที่แจ๊ค นิโคลสันพระเอกของท้องเรื่องยังหนุ่มเฟี้ยว(แต่รอยยิ้มก็ยังกวนทีนเหมือนเคย) แล้วคุณยังจะได้เห็นแดนนี่ เดอวิโต้ ตอนที่ยังไม่ลงพุงและหัวล้านขนาดตอนนี้ แล้วก็คริสโตเฟอร์ ลอยด์(ด๊อกเตอร์สติเฟื่อง Back to the futureทั้ง3ภาค)ยังหนุ่มฟ้อ และเป็นตัวประกอบเล็กๆ

เรื่องมีอยู่ว่าพระเอกของเรื่องโดนจับไปขังโรงบาลบ้าทั้งที่มันก็ไม่ได้บ้า และมันก็เชื่อว่าพรรคพวกร่วมโรงบาลนั้นก็ไม่ได้บ้าซักหน่อย หากไม่เชื่อเดี๋ยวกูจะลองแหกโรงบาลบ้าพาพรรคพวกไปใช้ชีวิตแบบที่คนดีๆพวกผู้ดีเขาทำกัน อย่างล่องเรือสำราญตกปลา ตีกะหรี่ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากโรงบาลบ้ามันมีกฎระเบียบเข้มงวด มีเจ้าของกติกาคือหัวหน้าพยาบาลชื่อRatchedที่เชื่อว่า”ในบ้านเมืองนั้นมีทั้งคนดี และคนบ้า การจะทำให้บ้านเมืองเป็นปกติสุข ไม่ใช่การทำให้คนบ้ากลายเป็นคนดี แต่ต้องควบคุมให้คนบ้าให้อยู่ในโรงบาลบ้า หรือถึงมันยังไม่ค่อยจะบ้า ก็ต้องทำให้มันบ้า”....บ๊ะ!เอากับมันดิ


ดังนั้นคนที่อยู่ในนั้นเลยต้องปรับตัวเข้ากับสังคมคือก็เลยแกล้งบ้าแม่งซะเลย บางรายก็บ้าติดอ่าง(แต่พอได้ตีหม้อเข้าไปที หายติดอ่างเฉย) บางรายแกล้งบ้าไม่พอยังแกล้งใบ้ด้วย เพราะมันเห็นตัวอย่างมาแล้วว่าใครไปท้าทายอำนาจพวกขาใหญ่คุมกฎ จะเจองานเข้าขนานใหญ่

แต่ไอ่พระเอกของเรื่องมันซ่าครับ พยายามจะพาพรรคพวกแหกกฎกติกาสังคม บอกว่าพวกเราไม่ใช่ไพร่ไม่ใช่ข้าขี้ฝุ่นขี้ตีนใคร อย่าให้ใครมาทำตัวเป็นนายเหนือหัวพวกเรา หากไม่เชื่อกรุจะพาลุยดูซักตั้ง....

ครับก็เลยได้พาคนในโรงพยาบาลบ้านั้นครื้นเครงกันไป

แต่เจ้าของโรงบาลบ้าเห็นว่าพฤติการณ์ดังว่าเนี่ยมันไม่ไหวแล้วเว๊ย และคุณเองก็รู้ว่าจุดจบของพระเอกนั้นเป็นยังไง มันก็จบไม่ต่างไปจากกระทู้ที่คุณบุญชิตฯว่าไว้หรอกครับคือ

แต่จุดจบดังว่านั้น ได้กลายเป็นจุดเริ่มต้น และแรงบันดาลใจอันใหญ่หลวงสำหรับอีกหลายคน ...โดยเฉพาะคนที่ไม่ยอมแพ้

ตอนจบของเรื่องนั้นคุณควรได้ดูเอง และไม่ควรจะมีใคร"เฉลย"ด้วย(รวมทั้งผม)

เป็นตอนจบที่อาจารย์ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล บอกว่า "เป็นฉากจบที่ทรงพลังที่สุด เรื่องหนึ่ง ในประวัติศาสตร์หนัง ผมแค่คิด ยังรู้สึกบีบอารมณ์มาก ทนดูซ้ำไม่ได้เลย"

(ที่มาของข้อเขียนนี้จาก http://thaienews.blogspot.com/2010/08/5.html )



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น